วันจันทร์ที่ 21 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2554

ท่านอิบนุตัยมียะฮฺด่าว่าท่านหญิงฟาติมะฮฺจริงหรือ

 
รอฟิเฎาะฮฺในเวปมุสลิมไทยนามว่า Down with america(หรือที่แอบอ้างใช้ชื่อ amin lorna ในกระดานเสวนาของเวปมุสลิมไทย) เขียนไว้ว่า
อุลามาซุนนีที่บอกว่า อิบนุตัยมียะฮ์ประณาม ฟาฏีมะฮ์(อ)

มุฮัมมัดซะกียุดดีน อิบรอฮีมอุลามาผู้ยิ่งใหญ่แห่ง อัลอัซฮัรเมื่อมาถึงตรงคำพูดนี้ของอิบนุ ตัยมียะฮ์ก็ได้กล่าวว่า

“อิบนุตัยมียะฮ์คือผู้ที่ในหัวใจมีความจงเกลียดจงชังต่อ อะฮ์ลุลบัยต์วงศ์วานของศาสดา และได้ทำการลบหลู่ต่อท่านหญิงฟาฏิมะฮ์(อ)ถึงขั้นกล่าวว่านางนั้นคือ มุนาฟิก??? อัลอะยาซุบิลลาฮ์ ”

و مع ان ابن تيمية انحرافات شتي فلعل من اوقحها هذا الانحراف اللئيم.

อิบนุตัยมียะฮ์นั้นมีข้อตำหนิผิดพลาดมากมาย และสิ่งที่ผิดพลาดที่สุดก็คือการลบหลู่ท่านหญิงฟาฏีมะฮ์(อ)

กะลิมะฮ์ อัล รออิด เล่ม2 หน้า546

کلمه الرائد، ج2، ص546


ทั้งๆที่มีรายงานเป็นมติเอกฉันทั้งซุนนีและชีอะฮ์ว่าท่านศาสดา(ศ)กล่าวว่า “แท้จริงแล้วฟาฏีมะฮ์คือผู้นำสตรีแห่งสวรงสวรรค์”

اما ترضين ان تكوني سيدة نساء أهل الجنة أو نساء المؤمنين .

صحيح البخاري - البخاري - ج 4 - ص 183

เจ้าไม่พึงพอใจดอกหรือที่ได้เป็นนายหัวหน้าสตรีแห่งสรวงสวรรค์ หรือหัวหน้าของสตรีผู้ศรัทธา

บุคอรี เล่ม4 หน้า183



وقال النبي صلى الله عليه وسلم فاطمة سيدة نساء أهل الجنة .

صحيح البخاري - البخاري - ج 4 - ص 219 .

และท่านศาสดากล่าวอีกว่า “ฟาฏีมะฮ์หัวหน้าสตรีแห่งสรววงสวรรค์”

บุคอรี เล่ม4 หน้า219


ทำมัย อิบนุ ตัยมียะฮ์ผู้เป็นเสาหลักของวะฮาบีจึงกล่าวว่า ฟาฏีมะฮ์คือมุนาฟิก ถ้าไม่ใช่เพราะความจงเกลียดจงชังที่มีต่ออะฮ์ลุลบัยต์วงวานศาสดา


โหลดหนังสือ มินฮาจ อัซซุนนะฮ์ จากเว็บวะฮาบี

http://www.d-alsonah.com/vb/showthread.php?t=745


ชี้แจงความตอแหล:เรามาดูชีอะห์โกหกกันนะครับ อ้างว่าท่านอิบนุตัยมียะห์เขียนว่า

“การที่ฟาฏิมะฮ์(อ)ได้มาทำการทวงคืนสวนฟะดักจากอบูบักร์ แต่ก็ไม่ได้คืนให้นาง ซึ่งการกระทำของนางนั้นคือการกระทำของมุนาฟิกดังที่อัลกุรอ่านได้กล่าวไว้ว่า”
وَ مِنْهُمْ مَنْ يَلْمِزُكَ فِي الصَّدَقَاتِ فَإِنْ أُعْطُوا مِنْهَا رَضُوا وَ إِنْ لَمْ يُعْطَوْا مِنْهَا إِذَا هُمْ يَسْخَطُونَ (توبه/58)
และบางส่วนจากพวกเขานั้นได้ตำหนิเจ้าในเรื่องของบริจาค หากพวกเขาได้รับมันพวกเข้าก็จะดีใจและหากไม่ได้รับมันทันใดนั้นพวกเขาก็จะโกรธ อัต เตาบะฮ์56

******************************
ที่ถูกต้องในหนังสือคือ
اليس من يذكر مثل هذا عن فاطمة ويجعله من مناقبها جهلا
اوليس الله قد ذم المنافقين الذين قال فيهم
وَ مِنْهُمْ مَنْ يَلْمِزُكَ فِي الصَّدَقَاتِ فَإِنْ أُعْطُوا مِنْهَا رَضُوا وَ إِنْ لَمْ يُعْطَوْا مِنْهَا إِذَا هُمْ يَسْخَطُونَ

"มิหรือคนที่กล่าวถึงเรื่องนี้ว่ามาจากฟาฏิมะห์ และทำให้สิ่งนั้นเป็นคุณสมบัติของนาง คนนั้นคือคนโง่เขลา?"
ทั้ง ๆ ที่อัลลอห์ได้ทรงตำหนิพวกสับปลับ มิใช่ดอกหรือ ซึ่งพระองค์ได้กล่าวถึงพวกเขาว่า "และบางส่วนจากพวกเขานั้นได้ตำหนิเจ้าในเรื่องของบริจาค หากพวกเขาได้รับมันพวกเข้าก็จะดีใจ และหากไม่ได้รับมันทันใดนั้นพวกเขาก็จะโกรธ .......... "
(หมายความ คนที่คิดว่านางโลภในทรัพย์สินถึงขนาดแค้นต่ออะบูบักรฺ หลังจากการทวงทรัพย์สินฟะดัก คนนั้นแหละคือคนโง่เขลา เพราะการคิดเล็กคิดน้อยเรื่องทานบริจาค เป็นคุณสมบัติของพวกมุนาฟิก ซึ่งท่านหญิงฟาฏิมะห์ไม่ใช่แบบนั้นแน่)
*************************************
ชีอะห์อ้างว่า อิบนุตัยมียะห์เขียนว่า
فمن مدح فاطمة، بما فيها اشتبه من هولاء.( منهاج السنه، ج4، ص245)
อิบนุตัยมียะฮ์ยังได้กล่าวต่ออีกว่า
“ใครก็ตามที่ชื่นชมและพยามยามเชิดชูฟาฏิมะฮ์(อ)ในตัวเขาก็มีความเป็นมุนาฟิกเช่นกัน”
พวกชีอะห์โกหก เปลี่ยนแปลงคำพูด ไม่รักษาอะมานะห์ และ ก็อปมาแค่ครึ่งเดียว

**************************************
แต่ที่ถูกต้องในหนังสือคือ
فمن مدح فاطمة، بما فيه شبه من هولاء
الا يكون قادحا فيها
ดังนั้นผู้ใดในหมู่พวกนั้น ที่สรรเสริญนาง ด้วยสิ่งที่กำกวม เขาคนนั้นก็เป็นผู้ใส่ร้ายนางไม่ใช่ดอกหรือ?
(หมายความ ถ้าพวกชีอะห์คนใด สรรเสริญนางเรื่องที่นางโกรธอะบูบักรฺ ทั้ง ๆ ที่สิ่งนั้นไม่ถูกต้อง อันที่จริงชีอะห์คนนั้นเป็นผู้ใส่ร้ายนางต่างหาก ไม่ได้ใส่ร้ายนางสักหน่อย)
******************************************
فيه (ในเรื่องนั้น) เปลี่ยนเป็น فيها (ในตัวนาง)
شبه (คำนาม แปลว่า ความกำกวม) เปลี่ยนเป็น اشتبه (คำกริยา แปลว่า คล้ายคลึง)
แถมยังตัดประโยคหลักออกไปนั่นคือ الا يكون قادحا فيها
"เขาคนนั้นก็เป็นผู้ใส่ร้ายนางไม่ใช่ดอกหรือ?"

ดาวน์โหลดหนังสือเรื่องนี้ได้ที่

http://www.archive.org/download/minhaj/msn4.pdf

แล้วท่านจะพบว่า

ใครกันที่เป็นฝ่ายโกหก

ใครกันที่เป็นฝ่ายบิดเบือน

และใครกันที่ปกป้องและยกย่องท่านหญิงฟาฏีมะฮฺและอะฮฺลุลบัยตฺ จริงๆ
ดังนั้นเมื่อไม่มีหลักฐานว่าท่านอิบนุตัยมียะฮฺด่าทอท่านหญิงแต่อย่างใด การที่ชีอะฮฺ "อ้างว่า" มุฟตีอัสฮัรตำหนิท่านอิบนุตัยมียะฮฺในประเด็นดังกล่าวก็ถือว่าตกไปด้วย เพราะหากว่ามุฟตีอัสฮัรตำหนิจริงๆก็ไม่ใช่ว่าจะเป้นเงื่อนไขให้ข้อมูลที่ฝ่ายรอฟิเฎาะฮฺนำเสนอมมาเป้นจริงขึ้นได้ เนื่องจากแนวทางของท่านอิบนุตัยมียะฮฺมักไม่ค่อยได้รับความพอใจจากแนวทางของกลุ่มอื่นๆอยู่แล้ว หากจะมีใครสวมรอยยตำหนิท่านอิบนุตัยมียะฮฺโดยอาศัยข้อมูลมดเท็จจากชีอะฮฺก็เป็นเรื่องปกติครับ แต่ผมมั่นใจว่าข้อมูลที่ยกมาในลำดับที่สองซึ่งอ้างถึงเชคอัสฮัรก็น่าจะมั่วอีกตามเคย เพราะเป็นไปได้อย่างไรที่อุลามาอ์อัสฮัรจะโจมตีท่านอิบนุตัยมียะฮฺทั้งที่หลักฐานที่ชีอะฮฺยกมาก็ไม่รู้ตรงไหนที่ชี้ว่าท่านอิบนุตัยมียะฮฺตำหนิท่านหญิงหญิงฟาติมะฮฺ

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น