วันอาทิตย์ที่ 13 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2554

พวกรอฟิเฎาะฮ์สอนว่าการมองอวัยวะเพศของคนที่มิใช่มุสลิมไม่บาป

พวกรอฟิเฎาะฮ์สอนว่าการ มองอวัยวะเพศของคนที่มิใช่มุสลิมไม่บาป



สิ่งที่ท่านกำลังจะอ่านต่อไปนี้หาใช่การใส่ร้ายจากฝ่ายซุนนะฮฺต่อ พวกรอฟิเดาะฮฺชีอะฮฺไม่ เพราะนั่นไม่ใช่อุดมการณ์ของพวกเรา แต่สิ่งที่ท่านกำลังจะอ่านต่อไปนี้เป็นข้อมูลที่นำมาจากตำราชีอะฮฺ(ซึ่งมี ให้ดาวน์โหลดทางเว็บไซต์พวกเขา) โดยที่พวกเราได้ทำการเซฟมาจากหน้าเว็ปไซต์ของพวกเขาเพื่อให้ท่านได้ดูเป็น หลักฐานกันชัดๆ

 
แปล:

6 ـ باب جواز النظر الى عورة البهائم ومن ليس
بمسلم بغير شهوة
บทที่ 6 การอนุมัติให้ดูอวัยวะเพศของสัตว์และของบุคคลที่ไม่ใช่มุสลิมโดยปราศจากความ กำหนัด
(มีด้วยหรือดูอวัยวะเพศแล้วไม่กำหนัด ?แล้วเอามาตรฐานอะไรวัดว่าแบบไหนกำหนัดอันแบบไม่กำหนัด)

ริวายัติจาก มุฮัมมัดยะกูบ กุลัยนี(เจ้าของอัลกาฟีอันยิ่งใหญ่) จากอะลีบินอิบรอฮิมอัลกุมมี(เจ้าของตัฟซีรกุมมี) จากบิดาของเขาจากอิบนิอุมัร
(หะดีษบทต่อไปนี้นำมาจากหนังสือ อัลกาฟีย์อีกที)
แปล ประโยคที่ขีดเส้นแดง:
อบูอับดิลละฮ์กล่าวว่าการมองอวัยวะเพศของพวกที่ไม่ใช่มุสลิมก็เท่ากับการมองอวัยวะเพศของลา(แปลว่าไม่บาปเพราะการมองอวัยวะเพศ สัตว์ไม่มีข้อห้ามทางศาสนา)

หะดิษหมายเลขที่ 1406:
อิมามญะฟัรศอดิกกล่าวว่าเป็นความจริงที่ว่ามันคือสิ่งที่ต้องห้ามสำหรับการมองดูอวัยวะเพศของคน มุสลิมด้วยกันและในขณะเดียวกันการมอ งอวัยเพศของคนที่ไม่ใช่มุสลิมก็เท่ากับการมองอวัยวะเพศของลา(แปลว่า ไม่บาป)


อย่างไรก็ตามข้าพเจ้าเชื่อว่าฝ่ายชีอะฮฺมักจะอ้างว่าหะดีษดังกล่าว ดออีฟ ซึ่งในความเป็นจริงการอ้างในลักษณะนี้เป็นสิ่งที่รับไม่ได้เพราะหากมาตรฐาน ทางศาสนาของฝ่ายชีอะฮฺดีจริงอุลามาอ์ชีอะฮฺคงไม่นำหะดิษแบบนี้มาบันทึกให้ ขายหน้าตั้งแต่แรกแล้ว
อย่างไรก็ตามหะดิษชีอะฮฺที่เราได้นำเสนอไปนั้น บันทึกอยู่ในหนังสือ วะซาอิลุชชีอะฮฺ ของหัรรุ้ลอามิลี ซึ่งเขานำหะดิษมาจากหนังสืออัลกาฟีย์อีกทีนั่นย่อมเป็นข้อบ่งชี้ว่าหะดิษที่ ให้ดูของลับกาเฟรได้นี้สอเฮี๊ยฮฺตามทัศนะของอุลามาอ์ผู้ยิ่งยงของชีอะฮฺนาม ว่าหัรรุ้ลอามิลี เพราะเขาได้กล่าวรับรองหนังสืออัลกาฟีย์ไว้แล้วว่า

ซัย ยิด อัลฮัรรุลอามิลี ปราชญ์ชีอะฮฺผู้รวบรวมตำรา วะซาอิลุชชีอะฮฺ ได้กล่าวไว้ว่า
: أصحاب الكتب الأربعة وأمثالهم قد شهدوا بصحة أحاديث كتبهم وثبوتها ونقلها من الأصول المجمع عليها , فإن كانوا ثقات تعين قبول قولهم وروايتهم ونقلهم
บรรดาผู้ประพันธ์ตำรา “กุตตุบอัรบะอะฮฺ” (หนังสือ 4 เล่มสำคัญของชีอะฮฺซึ่งรวมอัลกาฟีย์ด้วย)ของชีอะฮฺ ได้พิสูจน์แล้วว่า บรรดาหะดิษจากตำราเหล่านั้นคือหะดีษซอเฮี๊ยฮฺ!!! จากอูศูลทั้ง หมดของชีอะฮฺซึ่งเห็นพ้องต้องกัน และหากท่านพิจารณาว่านักปราชญ์เหล่านั้น เชื่อถือได้ ดังนั้นท่านต้องยอมรับคำพูดและรายงานของพวกเขา (วะซาอิลุชชีอะฮฺ เล่ม 20 หน้า 104)


หะดิษบทน้ของรอฟิเดาะฮฺเป็นการเปิดทางไปสู่ การดูคลิปโป๊,การนุ่งน้อยห่มน้อยและอื่นๆอีกมากที่มาจากพฤติกรรมของกาเฟร เพราะดูสิ่งเหล่านั้นก็เหมือนดูลา
อย่างไรก็ตามมีข้อที่น่าสงสัยว่า การดูของลับของสตรีชาวซุนนีนั้นเป็นที่หะรอมไหมสำหรับชายชีอะฮฺหากมองจากคำ สอนนี้เพราะ เชคมุฟีด หนึ่งในนักปราชญ์ชีอะฮฺที่ซัยยิดสุไลมานเคยรับรองและยังเป็นหนึ่งในผู้วาง รากฐานให้แก่ศาสนาชีอะฮฺด้วยการแบ่งรูกุ่นอีมานออกเป็น 5 ข้อได้ฟัตวาไว้ว่าชาวซุนนีมิใช่มุสลิมดังนี้

اتفقت الامامية على أن من أنكر إمامة أحد من الائمة وجحد ما أوجبه الله تعالى له من فرض الطاعة فهو كافر ضال مستحق للخلود في النار
 
มีมติเป็นเอกฉันท์ในหมู่ผู้รู้อิมามียะฮฺต่อความจริงที่ว่า คนหนึ่งคนใดที่ไม่ศรัทธาต่ออิมามะฮฺแม้เพียงคนเดียวของอิมามและบรรดาผู้ไม่ ศรัทธาในสิ่งที่อัลลอฮฺถือเป็นหน้าที่ที่จะต้องเชื่อฟังพวกเขา(บรรดาอิมาม) บุคคลเช่นนั้นคือผู้ปฏิเสธที่หลง และสมควรพำนักอยู่ในนรกตลอดกาล

หนังสือ อัลมะซาอิล หน้าที่ 120 ของ ชัยคฺมุฟีด

ชาวซุนนีซึ่งไม่ศรัทธาต่อ บรรดาอิมามของชีอะฮฺก็ย่อมเป็นกาเฟรแน่นอน
ดังนั้นการดูของลับตลอดจนเอา เราะฮฺของสตรีซุนนีจึงเป็นที่อนุมัติแก่ชายลัทธิรอฟิเดาะฮฺชีอะฮฺหรือไม่
อุ ลามาอ์ชีอะฮฺคนใดรู้บอกที

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น